Neem Argan Any Oil ฟื้นฟูเนื้อที่หายไปจากหลุมสิวได้อย่างไร

Argan Oil มาจาก ต้น Argan เป็นพืชที่เติบโตตามธรรมชาติเฉพาะบริเวณพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโมร็อคโคเท่านั้นค่ะ ซึ่งถือเป็นทองคำขาวแห่งโมร็อคโคเลยทีเดียว

⏩ ใน Argan Oil มีปริมาณ Vitamin E และไขมันจำเป็นที่สูงมาก ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหายให้กลับมาแข็งแรงขึ้น ลดอาการแพ้ของผิวที่ติดสเตียรอยด์

⏩ ช่วยลดสิวและอาการอักเสบของสิวได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็น Dry Oil เหมาะกับทั้งผิวมันและผิวแพ้ง่ายจึงไม่ทิ้งความมันบนผิว

♾ ประโยชน์ล้ำค่าของทองคำแห่ง Morocco 


 Argan Oil หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า 'Liquid Gold' เป็นน้ำมันที่ได้มาจากการสกัดเมล็ดของต้นอาร์แกนในประเทศโมร็อคโค Argan เป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งกรดไขมันและวิตามินอี ซึ่งมีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อทั้งผมและผิว 

เช่นนี้เอง จึงทำให้ Argan Oil เป็นส่วนประกอบยอดนิยมที่จะต้องมีในเครื่องสำอางหลายๆแบรนด์


⚋ ประโยชน์ของน้ำมัน Argan Oil ⚋

1. ช่วยชะลอวัย (Anti-aging)

○ Argan Oil ไม่เพียงแต่จะเป็นสารที่ให้ความชุ่มชื่นที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสอ่อนเยาว์และช่วยลดริ้วรอยอีกด้วย Argan Oil มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยชะลอริ้วรอย ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวและทำให้ผิวอิ่มเอิบและเนียนนุ่ม

2. ช่วยผิวที่มีปัญหาสิว

○ ในขณะที่น้ำมันหลายชนิดและผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นต่อผิวอาจมีผลข้างเคียงก่อให้เกิดสิว แต่ Argan Oil กลับช่วยรักษาผิวที่มีปัญหาเรื่องสิวและช่วยบรรเทาอาการอักเสบของสิวได้ 

เพราะการเกิดสิวมีสาเหตุมาจากผิวที่มัน แต่ Argan Oil ช่วยปรับสมดุลให้กับผิวแทน ซึ่งช่วยรักษาเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ จะพบว่าผิวมีความชุ่มชื่นในปริมาณที่พอดี จึงสามารถช่วยกำจัดสิวและยังปรับสมดุลสำหรับผิวมันหรือผิวแห้งได้อีกด้วย


3. ให้ความชุ่มชื่นต่อผิว

○ Argan Oil ส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยในเรื่องของการให้ความชุ่มชื่นเพื่อเติมน้ำให้กับผิวและช่วยให้ผิวนุ่มเนียน มีปริมาณวิตามินอีและกรดไขมันที่สูง เป็นผลิตภัณฑ์ในอุดมคติที่ช่วยกระตุ้นผิวจากธรรมชาติ เพราะว่าซึมซับเข้าผิวได้ง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองซึ่งนี่คือคุณสมบัติที่ทำให้อาร์แกนออยล์เป็นสารให้ความชุ่มชื่นจากธรรมชาติที่ดีมาก โดยอาร์แกนออยล์สามารถใช้ได้กับทุกส่วนของเรือนร่าง รวมถึงไปถึงผิวหน้าและลำคอคอที่บอบบางกว่าส่วนอื่นๆ เพียงแค่หยดน้ำมันอาร์แกนออยล์ 2-3 หยดลงบนผิว แล้วถูให้ทั่วอย่างนุ่มนวล ก็จะให้ผลลัพธ์เหมือนกับการใช้โลชั่นทาหน้าหรือโลชั่นทาผิวทั่วๆ ไปเลยทีเดียว


4. ช่วยบำรุงผิวที่แห้งกร้าน

○ Argan Oil มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่ประสบปัญหาผิวแห้งกร้านหรือโรคผิวหนังที่ทำให้ผิวแสบ ลอกเป็นแผ่น และคัน วิตามินอีและกรดไขมัน ใน Argan Oil เป็นสารที่สำคัญมากซึ่งช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายและยังมีสารอาหารซึ่งช่วยปกป้องผิวที่แห้งกร้านและระคายเคือง 

Argan Oil ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยในการปลอบประโลมผิวจากการโดนทำร้ายต่างๆ เพียงแค่ใช้ในปริมาณเล็กน้อยกับผิวที่มีปัญหาและนวดอย่างอ่อนโยน ก็จะช่วยบรรเทาและรักษาผิวให้กลับมามีสุขภาพที่ดีได้


5. การปกป้องและดูแล

○ สารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในอาร์แกนออยล์นั้นมีประโยชน์ในการดูแลรักษาผิวที่เกิดการระคายเคือง ผิวแตก ผิวที่ถูกทำลาย หรือแม้แต่ผิวที่ไหม้ ซึ่งเป็นสารที่ดีที่สุดที่ใช้ในการปกป้องผิวแห้งและผิวที่แสบร้อน ทั้งยังใช้เพื่อเร่งฟื้นฟูผิวได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดการติดเชื้อ ปลอบประโลมผิวที่เจ็บปวด และสมานผิวได้เร็วขึ้น


6. ช่วยใช้บำรุงเท้า มือ และเล็บ

○ Argan Oil ช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม ช่วยเล็บที่เปราะบาง มือที่แห้งกร้าน และส้นเท้าที่แตก ให้ความชุ่มชื่นผิว ให้ทั้งมือและเท้าอ่อนนุ่ม เล็บแข็งแรง และมีสุขภาพดี เพียงใช้ 2-3 หยด นวดไปที่ผิว มือ และเท้าก่อนนอนทุกคืน


8. ใช้สำหรับบำรุงเส้นผม

○ Argan Oil ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้เส้นผมนุ่มนวลดุจแพรไหม และเป็นประกายเงางาม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยรักษาผมแตกปลายและเส้นผมที่หักงอให้มีสุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย 

คุณสมบัติที่ช่วยในการบำรุงเส้นผมที่หักงอและช่วยให้ผมมีประกายเงางามนี้เอง จึงเป็นที่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์แต่งผมหรือแชมพู เพราะช่วยให้สามารถจัดแต่งทรงผมและช่วยให้ผมมีสุขภาพดีได้ โดยวิธีง่ายๆ ในการใช้อาร์แกนออยล์กับเส้นผม ก็คือหลังจากที่ใช้ไดร์เป่าเพื่อให้ผมแห้ง ให้หยดอาร์แกนออยล์ 2-3 หยดลงบนฝ่ามือ ลูบไล้เส้นผมให้ทั่ว ก็จะได้เส้นผมที่เงางามดูมีสุขภาพดีแล้ว


9. ให้ความชุ่มชื่นต่อริมฝีปาก

○ ริมฝีปากมักจะแห้ง แสบและแตกได้ง่าย ในช่วงที่อากาศหนาวหรืออากาศแห้ง Argan Oil เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ปากคงความอิ่มเอิบ เติมเต็มร่องปากและให้ปากคงความอ่อนนุ่ม เพียงแค่ใช้อาร์แกนออยล์เพียงหยดหรือ 2 หยดถูลงบนริมฝีปากที่แห้งกร้าน

จากประโยชน์ที่กล่าวมา เรียกได้ว่า Argan Oil มีคุณค่า สมคำร่ำลือ และสมศักดิ์ศรีฉายา "ทองคำ" แห่งโมรอคโค จริงๆค่ะ